อดีตดาวยิงสูงสุด เอเอฟซี
กองหน้าที่ทำลายสถิติยิงสูงสุดในเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เรื่องราวชีวิตของนักเตะรายหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเกี่ยวพันกับฟุตบอลได้ แต่เรื่องราวมันพลิกผันไปมา จนกลายเป็นกองหน้าที่ทำลายสถิติยิงสูงสุดในเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่ง ณ วันนี้ยังไม่มีคนไทยรายไหนทำลายสถิติของเขาได้
ชื่อของ “เจ้ายิ่ง”นันทวัฒน์ แทนโสภา เชื่อว่าแฟนบอลรุ่น 30 กว่าขึ้นไป น่าจะพอรู้จักเขา จากเด็กหนุ่มจากมหาสารคาม ที่เข้ามากทม.โดยไม่มีเรื่องฟุตบอลเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ผมไม่ได้เป็นนักฟุตบอล แค่เตะเล่นสนุก ๆ ตอนเด็ก อาจจะเคยเล่นบอลโรงเรียนบ้าง แต่โรงเรียนแถวบ้านก็แค่ส่งทีมร่วม นักเรียนมีอยู่หยิบมือ ขนาดไปเตะกับโรงเรียนอื่น ยังต้องใช้ผู้รักษาประตูเป็นผู้หญิงเลย พอเริ่มโตก็เข้ามากรุงเทพฯ เรียนโรงเรียนช่างฝีมือทหาร ที่นี่ก็ยังไม่ได้เล่นบอล เรียนอย่างเดียว พอเรียนจบปวช. ก็ไม่อยากเป็นทหาร เลยไปเรียนต่อที่ เทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ”
พอตอนอยู่ ปี 2 ตอนนั้นเพิ่งกลับมาเล่นฟุตบอลจริงจัง เล่นเอง ฝึกเอง ไปเดินสาย เมื่อม.ศรีปทุม เปิดคัดก็เลยอยากลอง ไปทดสอบที่นั่น ปรากฏว่าติดทีมม.ศรีปทุม
“ตอนนั้นพี่ชัยยงค์ ขำเปี่ยม เป็นโค้ชม.ศรีปทุมและที่สโมสรตำรวจ ผมไปทดสอบก็ติด ได้ทุนเรียนฟรี เลยเรียนควบกับที่เทคโนพระจอมเกล้าฯ เพราะเวลามันไม่ตรงกัน แต่เรียน 2 ที่แถมเล่นบอลไปด้วย เริ่มไม่ไหว สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเก็บหน่วยกิตอีก 4 ตัวที่เหลือที่เทคโนพระจอมเกล้าฯ หันมาเล่นบอลจริงจัง เพราะ “พี่ยงค์”ชวนไปเล่นให้ตำรวจ”
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เริ่มเล่นฟุตบอลจริงจังตอน 20 ปีที่ม.ศรีปทุม ถูกชวนไปเล่นทีมตำรวจ พออายุ 22 ปีมีชื่อติดทีมชาติชุดเอเชี่ยนเกมส์ ที่โดฮา
“ผมไปซ้อมกับทีมในชุด 50 คนแรก สุดท้ายก็หลุด จริง ๆ ผมมีชื่อติดทีมชาติบ่อยมาก ซีเกมส์ที่โคราชก็ไปซ้อม 3-4 เดือน แต่ถึงตอนตัดตัวก็หลุดอีก อาจเป็นเพราะว่าเราไปแบบโดดเดี่ยว เลยเล่นไม่ค่อยเข้ากับทีม ชุดเอเชี่ยนคัพที่ไทยมีชื่อติดก็ไม่ได้เล่น”
สนามใหญ่ดูเหมือนไม่ถูกโฉลก แต่ชื่อของ ยิ่งยง แทนโสภา ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นนันทวัฒน์ กลับติดทีมชาติฟุตบอลชายหาด หลังจากโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในบอลชายหาดยูลีก กับม.ศรีปทุม
“ก็แปลก ๆ ดี สนามใหญ่มีชื่อแต่หลุดโผทุกครั้ง กลับมาติดทีมชาติในฟุตบอลชายหาด ตอนไปแข่งที่บาหลี อินโดฯ ในชิงแชมป์เอเชีย แต่ก็ตกรอบสอง”
แม้จะติดทีมชาติชายหาด แต่ “เจ้ายิ่ง”ก็ไม่ทิ้งฟุตบอลสนามใหญ่ จากตำรวจ ย้ายไปธ.กรุงไทย ที่เพิ่งคว้าแชมป์ไทยลีกไปก่อนหน้านี้ และเจ้าตัวก็มีโอกาสได้ลงเล่นในเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2008
“ปีนั้นผมได้เล่นเป็นกองหน้าให้กับกรุงไทย ในรอบแบ่งกลุ่ม ยิงไป 9 ประตู โดยไปเยือนปักกิ่ง กั๋วอัน ของจีน ยิงไป 1 ประตู ทีมแพ้ พอนัดที่สองเราเล่นในบ้านชนะ 5-3 ผมยิงไป 4 ประตู แล้วก็มายิง นัมดินห์ ของเวียดนาม นัดแรกในบ้านเรายิงแฮตทริก ชนะไป 9-1 นัดสองไปยิงอีกลูก เสมอบ้านเขา 2-2 แต่อีก 2 นัดกับคาชิม่า แอนท์เลอร์ นี่ไม่น่าจดจำ นัดแรกในบ้านเราแพ้ 1-9 นัดสองไปแพ้เขาที่บ้านอีก 1-8 ผมยิงไม่ได้เลย แต่จบที่ยอดยิง 9 ประตู กรุงไทยเป็นที่ 2 แต่เขาเอาแค่แชมป์กลุ่มเข้า”
ชื่อของ นันทวัฒน์ แทนโสภา เลยถูกบันทึกว่าเป็นนักเตะไทยที่ยิงได้มากสุดในเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก โดยยังไม่มีนักเตะไทยคนไหนในลีกทำได้จนถึงตอนนี้ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่มาเทคโอเวอร์ธ.กรุงไทย เล่นอีก 2 ปี และมาจบที่เชียงราย ยูไนเต็ด เล่นอีก 6 ปี
“ผมจำสถิติยิงประตูของผมไม่ได้ แต่แทบทุกทีมผมมักจะยิงได้มากสุดในทีม ในฐานะกองหน้า ส่วนสถิติยิงในแชมเปี้ยนส์ลีกเยอะสุด ตอนยิงไม่ได้คิด แต่ตอนนี้เวลามีคนพูดถึงก็รู้สึกภูมิใจอยู่เหมือนกัน”
หลังจากปิดฉากการค้าแข้ง “เจ้ายิ่ง”ที่ได้แฟนเป็นคนเชียงราย สุธาสินี เหล่าร่งโรจน์ เมื่อปี 2013 แล้วก็ปักหลักลงฐานที่นั่น โดยเป็นโค้ชอะคาเดมี่ของเชียงราย ยูไนเต็ด ก่อนจะมารับงานคุมทีมเชียงราย ซิตี้ 4-5 ปีจนถึงตอนนี้ นอกเหนือจากการรับงานโค้ชแล้ว ชีวิตของดาวยิงวัย 36 ปีก็ถือว่าสุขสบายและมั่นคง เนื่องจากภรรยาเองก็เป็นทายาทของเจ้าของกิจการร้านขายจักรยานยนต์, รถไถ, เครื่องใช้ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อร้าน “ทวียนต์” ซึ่งมีสาขาทั่วเชียงรายและเชียงใหม่ รวมแล้ว 35 สาขา
นอกจากนี้ ทางครอบครัวของแฟนสาวและ “เจ้ายิ่ง”ยังได้ร่วมกันสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียมขนาดมาตรฐานพร้อมอาคารเก็บตัว รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท เพื่อให้เช่าและทำอะคาเดมี่โดยใช้ชื่อ star power “ตอนนี้ก็มีเด็ก ๆ มากินอยู่ เรียนฟุตบอลอยู่ประมาณ 70 คน เราจะมีสอนฟุตบอล ส่งแข่ง และก็ส่งไปเรียนด้วย โดยมีค่าใช้จ่ายที่ผู้ปกครองจ่ายให้เดือนละ 4,500 บาท ก็สร้างเด็กเพื่อป้อนสู่อาชีพกับเชียงราย ซิตี้ด้วย”
นันทวัฒน์ แทนโสภา เคยทำหน้าที่ในตำแหน่งกองหน้าให้แก่สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส และสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ ในการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีกเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 เขาเป็นผู้ทำประตูชัยให้แก่ทีมสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ เมื่อครั้งที่พบกับทีมสโมสรฟุตบอลศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี และตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2555 นันทวัฒน์ได้ย้ายไปอยู่ร่วมกับทีมสโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด และสามารถทำประตูให้แก่ทีมดังกล่าวในรายการต่างรวม 16 ประตู ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หัวเข่าฉีกในช่วงท้ายฤดูกาล ถึงกระนั้น เขาก็ฝืนใจทำหน้าที่จนสิ้นสุดฤดูกาล และเข้ารับการผ่าตัดในเวลาต่อมา
ครั้งหนึ่ง ได้มีกรณีที่นันทวัฒน์แสดงท่ายั่วยุต่อกองเชียร์ทีมสโมสรฟุตบอลโอสถสภา เอ็ม–150 สระบุรี จนเป็นเหตุให้กองเชียร์ทำการประท้วง โดยทางนันทวัฒน์ได้กล่าวขอโทษต่อกองเชียร์ทีมดังกล่าว และรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นี่คืออีกหนึ่งชีวิตของอดีตกองหน้าระดับแนวหน้าของเมืองไทย ซึ่งชีวิตยามเลิกเล่นดูท่าว่าจะสุขสบายกว่าอดีตนักเตะอีกหลาย ๆ คน มีหลักฐานชีวิตที่มั่นคงกับภรรยาและลูกชายอีก 2 คน ถึงตอนนี้ใครเจอหน้าเรียกชื่อ “เสี่ยยิ่ง”ได้เต็มปากแบบไม่กระดาก กองหน้าที่ทำลายสถิติยิงสูงสุดในเวที เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก