วุ่นแน่หากพรีเมียร์ลีกโมฆะ
ถ้าหากโมฆะ พอล อินซ์ อดีตแข้งคนดังเผยว่าหากพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ เกิดโมฆะขึ้นมาจริงๆ จะเกิดความโกลาหลแน่นอนโดยเฉพาะในเมือง ลิเวอร์พูล
หงส์แดง ลิเวอร์พูล มีแต้มทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ ถึง 25 คะแนน โดยที่พวกเขาต้องการอีกเพียง 6 แต้มเท่านั้นเพื่อการันตีตำแหน่งแชมป์ที่รอคอยมา 30 ปี อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์โรคระบาด โควิด-19 ที่กำลังกระจายตัวทั่วยุโรปจนส่งผลให้เกือบทุกลีกต้องหยุดพักการแข่งขัน ซึ่งจนถึงตอนนี้การกระจายเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
โดยทาง ยูฟ่า ได้ออกมาเลื่อนการแข่งขันศึก ยูโร 2020 ไปเป็นปีหน้าเพื่อหลีกทางให้ลีกแต่ละประเทศขยายช่วงเวลาปิดฤดูกาล 2019/20 อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า หากทุกลีกไม่สามารถปิดฤดูกาลได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนก็เป็นไปได้ว่าอาจต้องมีการหารือเรื่องการยุติการแข่งขัน
ด้าน พอล อินซ์ อดีตผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ว่า การแข่งขันฤดูกาลนี้จำเป็นต้องดำเนินต่อให้จบ มิเช่นนั้นแฟนบอลลิเวอร์พูล อาจไม่พอใจจนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายในเวลาต่อมา มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากเพราะคุณไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ลองจินตนาการดูว่า การรอคอย 30 ปี เพื่อเป็นแชมป์ เมื่อคุณเจอช่วงวิกฤติ แล้วพวกเขาจะทำการยกเลิกหรือโมฆะไป”
ความโกลาหลอาจจะเกิดขึ้นใน ลิเวอร์พูล แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อให้ทีมหนึ่งไม่พอใจแล้วคนอื่นๆ มีความสุข หรือจะมอบแชมป์ให้กับ ลิเวอร์พูล เลย? ไม่ว่ายังไงเราต้องทำให้ฤดูกาลนี้จบ ไม่ว่าจะจบลงที่เดือนพฤษภาคม หรือ มิถุนายน ก็ตาม เพราะคุณกำลังพูดถึงเกมที่เหลือแค่ 9 นัดเท่านั้น”
ในทางด้าน ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์สปิริตต้องการให้พรีเมียร์ลีก เตะกันต่อให้จบฤดูกาลนี้ แม้ว่าจะทำให้ทีมตัวเองต้องได้เห็น ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกก็ตาม
ยังไงก็อยากให้พรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เตะให้ครบโปรแกรม และแข่งกันต่อจนจบ สำหรับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ออกมาหนุนหลังแนวคิดนี้แบบสุดตัว แม้ว่าการแข่งให้จบซีซั่น และทำให้ตัวเองเจ็บปวดรวดร้าว จากได้เห็น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีครั้งแรก ในรอบ 30 ปีก็ตาม
เวลานี้ทั่วทั้งโลก โดยเฉพาะทวีปยุโรปกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การแข่งขันฟุตบอลในเกาะอังกฤษ ต้องเลื่อนโปรแกรมออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน เป็นอย่างน้อย แต่กระนั้นก็มีความเป็นไปได้ ที่อาจจะต้องยืดเยื้อไปจนถึงช่วงซัมเมอร์กันเลย หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายได้ออกมาเสนอทางออกให้กับการแข่งขันในซีซั่นนี้ ว่าจะมีบทสรุปอย่างไร บ้างก็บอกว่าให้ตัดจบการแข่งขัน และยกแชมป์ลีกให้กับ ลิเวอร์พูล ไปเลย เพราะเวลานี้นำเป็นจ่าฝูง และขอเพียงอีกแค่ชัยชนะ 2 นัดก็จะคว้าแชมป์แล้ว นั่นเอง
หรืออีกทาง ก็เสนอว่าให้การแข่งขันซีซั่นนี้เป็นโมฆะไปเลย ไม่มีทีมไหนได้แชมป์ หรือตกชั้น โดยแนวทางนี้ ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้ตัดสินใจทำไปแล้ว สำหรับเกมนอกลีก เมื่อช่วงสัปดาห์ ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเสียงส่วนใหญ่ พร้อมใจกันสนับสนุนแนวคิดที่ว่า จะต้องให้การฟาดแข้งซีซั่นนี้เตะให้จบตามโปรแกรม แม้ว่าจะต้องยืดเวลาออกไป และเล็งที่จะจัดแข่งฤดูกาลใหม่ในช่วงเวลาใกล้ๆ เดือนสิงหาคมให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ซึ่งจากแนวคิดการเตะให้จบซีซั่นนี้เอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นทีมยักษ์ใหญ่ทีมแรกๆ ที่ออกมาสนับสนุนแนวคิดนี้อย่างเต็มที่ โดยบอร์ดบริหารของสโมสรต่างไม่เห็นด้วยที่จะทำการยกเลิกการเตะ และต้องการแข่งต่อให้จบ แม้ว่ามันอาจจะทำให้ “หงส์แดง” ทีมคู่รักคู่แค้น ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสุดในรอบ 30 ปี ก็ตาม
ถึงแม้นจะเสียหลักพุ่งชนความปราชัยในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมแรกเป็นที่เรียบร้อยจนอดทำสถิติไร้พ่ายอย่างน่าเสียดายยิ่งนัก แต่เอาจริงๆ มันก็เป็นเพียงความพ่ายแพ้แค่นัดหนึ่งเท่านั้น ว่าแล้วขอยืนยันหนักแน่นอีกครั้งว่าไม่มีสิ่งใดในโลกาที่จะมาหยุดยั้งการเป็นแชมป์ของ ลิ
ยกเว้นอะไรที่ผิดธรรมชาติ ยกตัวอย่าง
สงครามโลก ครั้งที่ 3
เชื้อโควิด-19 ไวรัสถล่มโลก
ดาวหางพุ่งชนโลก
ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวใหญ่ระดับ “เบรคกิ้ง นิวส์” ที่สร้างความตูมตามในโลกโซเชี่ยล โดยแทบทุกสำนักข่าวในอังกฤษพร้อมใจกันรายการว่าในกรณีที่เชื่อโรคระบาดเข้าสู่เมืองหลวงลูกหนังอย่างรุนแรงจนยากแก่การควบคุม
บางทีรัฐบาลอังกฤษอาจต้องสั่งยกเลิกการแข่งขัน และประกาศให้ฤดูกาลนี้เป็นโมฆะ
นี่แหละครับทางเดียวที่จะหยุดความอหังการของเครื่องจักรสีแดงในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ
แต่นี่คือการคาดการณ์ถึงสิ่งที่อาจบังเกิดขึ้นในกรณีที่สถานการณ์มันย่ำแย่และเลวร้ายสุดๆ เท่านั้นนะครับ
ความจริงคงไม่ถึงขั้นนั้นดอก
ผมเชื่อว่าเดี๋ยวสถานการณ์มันก็จะค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีเองนั่นแหละ อย่าไปตื่นตูมกับมันให้มากนัก เพียงแค่ระมัดระวังตัวเองเอาไว้แบบไม่ประมาทก็พอ
ถึงอย่างไร ลิเวอร์พูล ก็คือแชมป์พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2019-20 อย่างแน่นอน
ต่อไปเป็นเรื่องสมมุติ
ย้ำอีกครั้งว่า…สมมุติ
เข้าใจตรงกันนะครับว่า “สมมุติ”
สมมุติว่าถ้ามีการยกเลิกการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบกลางคัน โดยตัดจบตั้งแต่ตอนนี้เลย
ถามว่าสมาคมฟุตบอลอังกฤษ และพรีเมียร์ลีกสามารถยกแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษประจำฤดูกาลนี้ให้ ลิเวอร์พูล ได้หรือเปล่า เหตุการณ์แข่งไม่จบฤดูกาลเคยเกิดขึ้นศึกในไทยลีกมาแล้ว เมื่อ 2016 นะครับ ณ ขณะนั้น เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นำเป็นจ่าฝูง โดยทิ้งห่างทีมตามประมาณ 6-7 แต้มเท่านั้น ไม่ได้ขาดลอยระดับ 10 แต้มขึ้นด้วยซ้ำ
ว่าแล้วทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยก็ประกาศยกเลิกการแข่งขันในเกมที่เหลืออยู่อีกประมาณ 4-5 นัด พลางยกแชมป์ให้ทีมกิเลนผยองส่วนทีมตกชั้นก็ยึดตามอันดับในตารางล่าสุดก่อนประกาศยกเลิกนั่นแหละ แล้ว เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์ไทยลีกในปีนั้นอยู่ในทำเนียบแชมป์ และได้รับถ้วยรางวัลย้อนหลังเหมือนเป็นแชมป์ตามปกติทุกประการ
พรีเมียร์ลีกสามารถทำแบบนั้นได้หรือเปล่า คือยกแชมป์ในฤดูกาลนี้ให้ ลิเวอร์พูล ไปเลย ในเมื่อตอนนี้ พวกเขาก็ทิ้งห่างทีมตามอย่าง แมนฯ ซิตี้ แบบไม่เห็นฝุ่นอยู่ถึง 22 แต้ม โดยขอชัยชนะอีกแค่ 4 นัดก็จะคว้าแชมป์อย่างเป็นทางการ ซึ่งต่อให้แพ้อีก 4-5 นัดก็ไม่น่าจะพลาดอยู่ดีนั่นแหละ
เข้าใจว่าการยกแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล คงไม่มีใครขัดข้อง แม้แต่ แกรี่ เนวิลล์ ผู้มีสโลแกนประจำตัวว่า “I hates Scousers” เพราะมันชัดเจนอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีทางพลาด และเพราะมันเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง-เพียงแค่แข่งไม่ครบ 38 นัดเท่านั้นเอง
ไม่ว่าจะเล่นแบบปิดสนามหรือไม่ปิด มันคือการตัดสินใจ ซึ่งมันก็มีทางออกสำหรับทุกคน ไม่ใช่แค่ ลิเวอร์พูล แม้แต่เรื่องการตกชั้นจาก พรีเมียร์ลีก ก็ยังบี้กันเกินไป (หมายถึงช่องว่างคะแนน) ดังนั้นเราต้องแข่งให้จบ เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนแต่เรื่องโมฆะ มันไม่มีเหตุผลเท่าไหร่นัก” ถ้าหากโมฆะ