สื่อจอมแฉ เผย “แมนยูฯ” ได้ประโยชน์จาก “วีเออาร์” มากสุดในลีก
สื่อจอมแฉ เผย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ได้รับผลประโยชน์จากการตัดสินด้วย วีเออาร์ มากที่สุดในบรรดา 19 ทีมที่เหลือของศึกพรีเมียร์ลีก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 3 มี.ค. ว่า มีการเปิดเผยถึงสถิติทีมที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากการตัดสินด้วยกฎ “วีเออาร์” ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ หลังผ่านนัดที่ 27 และ 28
เดอะซัน สื่อจอมขุดคุ้ยแดนผู้ดี ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถิติดังกล่าว และชี้ไปที่ทัพ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเป็นทีมที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากการตัดสินด้วยวีเออาร์ ซึ่งออกมาเป็นผลดี +8 โดยทัพผีแดงเพิ่งมีประเด็นดราม่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเกมบุกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ตามมาด้วย ไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน ทีมในอันดับ 15 ของตาราง +7 และ คริสตัล พาเลซ ทีมในอันดับที่ 12 ของตาราง +5 ส่วนจ่าฝูงอย่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์เพียง +1 เช่นเดียวกับแชมป์เก่า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ทอตแนม ฮอตสเปอร์
ขณะที่ทีมได้รับผลประโยชน์น้อยสุดเลยคือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่ผลติดลบไป 6 รองมาก็เป็น วูล์ฟแฮมป์ตัน ติดลบ 5
สื่อดังอังกฤษอย่าง เดลี่ เมล์ และ เดอะ ซัน ได้ออกมาเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นสโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ VAR มากที่สุดในฤดูกาลนี้
หลังจากที่ลีกสูงสุดอังกฤษ ได้ตัดสินใจหันมาใช้ VAR อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ ก็มีทั้งเสียงวิจารณ์ไปในทางที่ดีและรวมไปถึงเสียงบ่นจากแฟนบอลมากมายหลายหลาก แต่ทุกอย่างก็ยังดำเนินเดินต่อไปตามปกติ ไม่มีท่าทีว่าจะเปลี่ยนแปลง
โดยความดราม่าล่าสุดจากการใช้ VAR ช่วยตัดสิน ก็เกิดขึ้นในเกมที่ เอฟเวอร์ตัน เปิดรัง กูดิสัน พาร์คแบ่งแต้มกับ แมนยู ไปด้วยสกอร์ 1-1 ซึ่งจังหวะดราม่านั้นมาเกิดขึ้นในช่วงท้ายครึ่งหลังของเกม เมื่อเจ้าบ้าน ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตู
ซึ่งผู้ตัดสินในเกมนี้ได้สอบถามไปยังทีมงาน VAR และสอบถามถึงจังหวะดังกล่าว จึงตัดสินให้ลูกนี้ไม่เป็นประตู เนื่องจากขณะที่บอลกำลังเข้าไปตุงตาข่าย ดันมี กิลฟี่ ซิเกิร์ดสัน ที่ยืนบังสายตา ดาบิด เด เคอาจึงกลายเป็นลูกล้ำหน้า แม้ว่าแฟนเจ้าบ้านมองว่า นายด่านรายนี้ไม่น่าจะเซฟได้ก็ตาม
จากข้อมูลของสื่อดังอักฤษ ได้รวบรวมออกมาว่า สโมสรในอังกฤษที่ได้รับผลประโยชน์จากการตัดสินของVAR มากที่สุดนั่นก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มีผลตัดสินรวมกันแล้วเป็นผลดีถึง 8 ครั้ง ตามมาด้วย ไบรท์ตัน 7 ครั้งและ คริสตัล พาเลซ 5 ครั้ง ส่วนทีมที่ดูจะไม่แฮปปี้และเสียผลประโยชน์จากการใช้ VAR มากที่สุดก็เห็นจะเป็นทางด้านน้องใหม่อย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เป็นผลเสียไปทั้งหมด 6 ครั้งด้วยกัน
หลังจากศึกพรีเมียร์ลีกฟาดแข้งผ่านไปแล้ว 28 เกมมีการใช้ VAR ช่วยในการตัดสินหลายครั้งมากล่าสุดเกมเอฟเวอร์ตัน เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา
เกมดังกล่าวแมนฯ ยูได้ผลประโยชน์จากการใช้วีเออาร์เมื่อลูกยิงของโดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ที่ไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เข้าประตูไป แต่ คริส คาวานาห์ ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์แล้วชี้ว่า กิลฟี ซิกูร์ดส์สัน อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าจากจังหวะนั่งขวางหน้าประตู ทำให้จบเกมทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1
หลังจบเกมดังกล่างการตัดสินของ VAR ของคู่นี้กลายเป็นประเด็นถกเถียงเป็นวงกว้างก่อนที่องค์กรผู้ตัดสินเกมการแข่งขันระดับอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) ออกมาชี้แจงว่าตามกฎแล้วถือว่า ซิกูร์ดส์สัน เข้าข่ายกับการอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จากการที่บดบังทัศนวิสัยของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูแมนฯ ยูไนเต็ดโดยตรง และมีผลกับความสามารถในการเซฟอย่างชัดเจน
ล่าสุด เดอะ ซัน สื่อจอมแฉของประเทศอังกฤษเปิดเผยสถิติสโมสรพรีเมียร์ลีกที่ได้ประโยชน์จากการใช้ วีเออาร์ มากที่สุดคือแมนฯ ยูไนเต็ด โดยเกมล่าสุดเป็นผลประโยชน์เชิงบวกครั้งที่ 8 ตามด้วย ไบรท์ตัน 7 ครั้ง และ คริสตัล พาเลซ 5 ครั้ง
ขณะที่ ลิเวอร์พูล ได้ประโยชน์จากวีเออาร์ เพียง 1 ครั้ง เช่นเดียวกับ เลสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล และ สเปอร์ส ส่วนทีมที่ได้ประโยชน์น้อยที่สุดคือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อได้ผลการตัสินติดลบ 6 ครั้ง
สรุปสโมสรที่ได้ประโยชน์จากการกลับคำตัดสินด้วยระบบ วีเออาร์ ในฤดูกาลนี้ (28 เกม)
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด +8
- ไบรท์ตัน +7
- คริสตัล พาเลซ +5
- เบิร์นลีย์ +4
- เซาธ์แฮมป์ตัน +3
- เลสเตอร์ +1
- ลิเวอร์พูล +1
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ +1
- นิวคาสเซิ่ล +1
- สเปอร์ส +1
- บอร์นมัธ 0
- วัตฟอร์ด – 1
- อาร์เซน่อล -2
- เอฟเวอร์ตัน -2
- แอสตัน วิลล่า -3
- เชลซี -4
- เวสต์แฮม -4
- นอริช -5
- วูล์ฟส์ -5
- เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด -6
สื่อจอมแฉ