6บิ๊กพรีเมียร์ลีกต้องจารึก
เผยโฉม6ผู้เล่นอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ในบรรดาทีมบิ๊ก 6 ของพรีเมียร์ลีก ต่างก็มีเยาวชนชั้นเยี่ยมของตัวเองที่ถูกดึงจากอะคาเดมี่ขึ้นมาช่วยงานทีมชุดใหญ่ อย่างในตอนนี้ที่เห็นได้ชัด ๆ ทางฝั่ง แมนยู ก็จะมี สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ส่วน ลิเวอร์พูล ก็จะเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขณะที่ เชลซี ตอนนี้ถือว่าเยอะมากไม่ว่าจะเป็น เมสัน เมาท์, ฟิกาโย่ โทโมริ หรือว่า รีซ เจมส์
ทว่าสถิติผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ตอนนี้จะเป็นของ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต ในสมัยที่เขายังอยู่กับ ฟูแล่ม โดยลงสนามด้วยวัยเพียง 16 ปี กับอีก 30 วันเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันเจ้าตัวได้ย้ายมาอยูกับ ลิเวอร์พูล แล้วเรียบร้อย และได้มีโอกาสขึ้นมาช่วยทีมชุดใหญ่บ้างแล้ว แน่นอนว่าในครั้งนี้เราจะมาตามหาเหล่าผู้เล่นที่เคยลงสนามรับใช้ 6 ยักษ์ใหญ่ของพรีเมียร์ลีก ด้วยอายุที่น้อยที่สุดกัน
6. ไมก้าห์ ริชาร์ด – แมนซิตี้
สำหรับ ไมก้าห์ ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ อะคาเดมี่แมนซิตี้ เลยก็ว่าได้ เพราะเขาสามารถแจ้งเกิดกับสโมสรได้ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี และเป็นตัวหลักของทีมได้อย่างยาวนานตลอด 10 ปี ก่อนที่จะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน และย้ายทีมออกไป แต่ก็ต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งจะอายุ 31 ปีเท่านั้นในตอนนี้ ลงสนามนัดแรก พรีเมียร์ลีก – อายุ 17 ปี กับ 119 วัน
ไมกาห์ ริชาร์ด อดีตกัปตันไฟแรงสูงของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการแล้วด้วยวัย 31 ปี เนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บหัวเข่าเรื้อรังจนต้องยอมตัดใจ ตลอด 4 ปีหลังสุด ริชาร์ด ค้าแข้งอยู่กับทีม แอสตัน วิลลา แต่เขาไม่ได้ลงสนามช่วยต้นสังกัดมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 เพราะเจ็บยาว ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามต่อสู้เพื่อกลับมาวิ่งอีกครั้งอย่างสุดกำลังแล้วจริง ๆ จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่าไม่ไหวจึงประกาศอำลาเส้นทางค้าแข้งไปอย่างน่าเสียดาย
5.โจดี้ มอร์ริส – เชลซี
ผู้ช่วยผู้จัดการทีม ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ในอดีตเขาคือดาวรุ่งจากอะคาเดมี่ของ เชลซี และได้โอกาสลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี กับอีก 43 วันเท่านั้นในปี 1996 ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายไปอยู่กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และพเนจรไปอีกหลายสโมสร ก่อนจะกลับมารับใช้สโมสรอีกครั้งในบทบาทสตาฟฟ์โค้ช ลงสนามนัดแรก พรีเมียร์ลีก – อายุ 17 ปี กับ 43 วัน
แฟนบอลเชลซีต่างมีอาการหัวเสียหลังจากที่ต้องเสียโค้ชทีมเยาวชนอย่างโจดี้ มอร์ริสให้กับดาร์บี้ เคาท์ตี้ หลังจากที่เจ้าตัวกลับไปร่วมงานกับอดีตเพื่อนร่วมทีมเชลซีอย่างแฟรงค์ แลมพาร์ดอีกครั้ง โดยมอร์ริสได้ลงเล่นเคียงข้างกับแลมพาร์ดในช่วงที่พวกเขาเล่นที่แสตมฟอร์ด บริดจ์และเจ้าตัวก็ไปเป็นสต๊าฟฟ์คนแรกให้กับอดีตมิดฟิลด์จอมยิงไกลรายนี้
แต่การที่มอร์ริสย้ายออกไปทำให้แฟนบอลต่างรู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมากหลังจากที่เจ้าตัวเป็นเบื้องหลังความสำเร็จที่เชลซีเพราะมอร์ริสประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการคุมทีมชุดต่ำกว่า 18 ปีและพาทีมเยาวชนคว้าแชมป์เอฟเอ ยูธคัพ 5 สมัยติดต่อกัน ซึ่งหลายคนได้มองว่าอนาคตเจ้าตัวมีโอกาสที่จะได้เป็นผู้จัดการทีมเชลซีชุดใหญ่แต่แล้วก็ดูเหมือนจะไม่เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวรอคอยโอกาสไม่ไหว
4.สตีเฟ่น คาร์ – สเปอร์ส
สำหรับผู้เล่นของ สเปอร์ส ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกนั้นต้องย้อนไปไกลเลยทีเดียว โดยเจ้าของสถิติเป็นของ สตีเฟ่น คาร์ อดีตแบ็กขวาวัย 43 ปีของทีมนั่นเอง โดย มร.คาร์ ได้ลงเล่นให้ทีมไก่เดือยทองในลีกสูงสุดครั้งแรกเมื่อปี 1993 ในเกมกับ อิปสวิช ทาวน์ ลงสนามนัดแรก พรีเมียร์ลีก – อายุ 17 ปี กับ 28 วัน แจ็ค วิลเชียร์ ยอดมิดฟิลด์จากทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยอมรับแล้วว่าเคยคิดจะออกจากวงการฟุตบอลไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน เพราะอาการบาดเจ็บของตนและอาการป่วยของลูกชาย
“ย้อนกลับไปในปี 2016 ที่ผมได้รับบาดเจ็บหนักมากจากการฝึกซ้อม ยอมรับว่ามันเป็นช่วงเวลายากลำบากสุดแล้ว เพราะพยายามจนแทบรากเลือดกว่าจะกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง สำคัญกว่านั้นคือลูกชายที่ตอนนั้นเพิ่งอายุ 4 ขวบมาป่วยเป็นโรคลมชักอีกต่างหาก คืนแล้วคืนเล่าผมต้องทนเห็นเด็กตัวน้อย ๆ ทนทุกทรมานจากสิ่งนี้ มันทำให้หัวใจคนเป็นพ่อแม่แทบสลาย” หนูแจ็ค กล่าว
3.อังเคล โกเมส – แมนยู
สำหรับ ไอ้หนูโกเมส เขาไม่ใช่เพียงแค่นักเตะอายุน้อยสุดของ แมนยู ที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่เขาคือเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดในสหัสวรรษปี 2000 คนแรกที่ได้ลงเล่นในเวทีพรีเมียร์ลีกอีกด้วย หลังจากที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ตัดสินใจเปลี่ยนเขาลงสนามแทนที่ เวย์น รูนี่ย์ เมื่อฤดูกาล 2016-17 ลงสนามนัดแรก พรีเมียร์ลีก – อายุ 16 ปี กับ 263 วัน
ฤดูกาลยังไม่จบ แต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งจัดงานประจำปี และมอบรางวัลยอดเยี่ยมแต่ละสาขากันไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถ้าดูจากข่าวก็น่าจะพอทราบกันแล้ว อาทิ อันเดร เอร์เรร่า ได้รางวัลใหญ่ แข้งยอดเยี่ยมขวัญใจมหาชน (แฟนบอล) ”เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ อวอร์ด” ส่วน อันโตนิโอ วาเลนเซีย ได้รางวัลแข้งยอดเยี่ยมขวัญใจเพื่อนร่วมทีม, เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้ประตูแห่งซีซั่น จากลูกยิงแมงป่องเกมกับซันเดอร์แลนด์ และ อักเซล ทวนเซเบ้ เป็นแข้งยอดเยี่ยมทีมสำรอง
แต่ละสาขาถือว่ามาตามนัด เพราะ เอร์เรร่า เป็นที่ชื่นชอบของาสาวก “เร้ด อาร์มี่” ถึงขั้นเชียร์ให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ ส่วน วาเลนเซีย ที่เล่นทุ่มเทซะขนาดนั้น จะได้ใจเพื่อนร่วมทีมก็ไม่แปลก หรือลูกยิงแมงป่องของ มิคกี้ ก็มาพร้อมความฮือฮา ส่วน ทวนเซเบ้ ก็นอนมาอยู่แล้วในสาขาทีมสำรอง ดังนั้นโฟกัสเลยไปอยู่ที่รางวัลสำหรับเจ้าหนูรุ่นเล็ก อังเคล โกเมซ ที่ได้รางวัลแข้งยอดเยี่ยมทีมเยาวชนในวัย 16 ปี 9 เดือน
อังเคล โกเมซ เกิดในลอนดอน อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2013 ตำแหน่งถนัดกลางรุก ซีซั่นปัจจุบันสตาร์ตตัวจริงให้ทีมเยาวชนไป 19 นัด ยิง 12 ลูก ในวัยไม่ถึง 17 ปี เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัลนี้ (ประวัติศาสตร์ 27 ปี) ส่วนรุ่นพี่คนอื่นๆ ที่เคยได้ก็อาทิ ไรอัน กิ๊กส์ ปี 1991 ตอนอายุ 17 ปี 6 เดือน , ฟิล เนวิลล์ ปี 1994 ตอนอายุ 17 ปี 4 เดือน หรือ อักเซล ทวนเซเบ้ ก็เคยได้รางวัลนี้ตอนอายุ ตอนอายุ 17 ปี 6 เดือนปี 2015
2.แจ็ค วิลเชียร์ – อาร์เซนอล
หนูแจ็ค กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของ อาร์เซนอล ที่ได้โอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีก หลังจากที่เขาถูกส่งลงสนามมาในฐานะตัวสำรองเมื่อปี 2008 ด้วยวัยเพียง 16 ปี กับอีก 256 วัน ทว่าเส้นทางของเขาไม่สวยนัก เมื่อโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานไม่ว่างเว้น จนปัจจุบันย้ายไปเจ็บต่อกับ เวสต์แฮม ลงสนามนัดแรก พรีเมียร์ลีก – อายุ 16 ปี กับ 256 วัน
ดาวเตะชาวอังกฤษอยู่ค้าแข้งกับ เดอะ กันเนอร์ส ตั้งแต่สมัยทีมเยาวชน ก่อนก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของสโมสร รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 17 ปีเข้าไปแล้ว แต่ล่าสุดเจ้าตัวตัดสินใจแล้วว่าจะโบกมือลาทีม หลังจากได้เข้าพูดคุยกับ อุไน เอเมรี กุนซือคนใหม่แล้ว เพราะต้องการโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ “ผมยืนยันได้ว่าผมจะย้ายออกจากอาร์เซนอลเมื่อสัญญาของผมหมดลงในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้” ห้องเครื่องวัย 26 ประกาศผ่านโซเชียลมีเดีย
1.แจ็ค โรบินสัน – ลิเวอร์พูล
สำหรับอดีตเด็กปั้นของ หงส์แดง รายนี้ เคยได้รับการยกย่องว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม และได้โอกาสประเดิมลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเมื่อปี 2010 ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บต่าง ๆ รวมไปถึงฝีเท้าที่ค่อนข้างพัฒนาช้าทำให้เขาถูกปล่อยยืมไปกับหลาย ๆ สโมสร และขายขาดออกไปในที่สุด ลงสนามนัดแรก พรีเมียร์ลีก – อายุ 16 ปี กับ 250 วัน
แจ็ค โรบินสัน เริ่มต้นงานในสัปดาห์นี้อย่างเป็นทางการ ในตำแหน่งผู้ช่วยโค้ชผู้รักษาประตูทีมชุดใหญ่ที่เมลวู้ด
โรบินสันที่ย้ายจากสมาคมฟุตบอลมาร่วมงานที่แอนฟิลด์ เริ่มต้นงานตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ในตำแหน่งใหม่ของเขาร่วมกับจอห์น อัชเตอร์เบิร์ก ในฐานะทีมงานเบื้องหลังของหงส์แดงที่เมลวู้ด
“มันเป็นเรื่องเยี่ยมที่ได้มาอยู่กับลิเวอร์พูล สโมสรที่มีประวัติศาสตร์มากมายอย่างแท้จริง และคว้าถ้วยรางวัลมาแล้วมากมาย” โค้ชวัย 33 ปีกล่าวกับ Liverpoolfc.com “หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผมจะเข้ามา และช่วยให้สโมสรพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ”
“มันเป็นการตัดสินใจที่ยากในการออกจากเอฟเอ เพราะผมสนุกกับประสบการณ์ และช่วงเวลาที่อยู่ที่นั่น การทำงานร่วมกับผู้คน และนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่การได้รับโอกาสทำงานในสโมสรใหญ่อย่างนี้กับผู้จัดการทีม และทีมที่ประสบความสำเร็จมากมาย เป็นเรื่องที่ดีเกินกว่าจะปฏิเสธ”
“ผมจะทำงานเคียงข้างกับจอห์นร่วมกับเหล่าผู้รักษาประตู และช่วยถ่ายทอดการฝึกซ้อมต่างๆ เช่นเดียวกันการดูแลผู้รักษาประตูเยาวชนที่กำลังก้าวขึ้นมา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเห็นสองสามคนผ่านขึ้นมาได้ และทำงานร่วมกันที่เมลวู้ด”
โรบินสันที่ได้ใบอนุญาต เอ ไลเซนส์ของยูฟาในการโค้ชผู้รักษาประตู ใช้เวลา 2 ปีครึ่งกับเอฟเอ ในการโค้ชทีมชาติอังกฤษในระกับ ยู-15-17 ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาแล้ว 7 ปี และมีช่วงเวลาที่ดีกับคริสตัล พาเลซ และลีดส์ ยูไนเต็ด
อัชเตอร์เบิร์กโค้ชผู้รักษาประตูทีมชุดใหญ่กล่าวเสริมว่า “มันเป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ได้แจ็คมาอยู่ที่นี่ เขาทำงานโค้ชมานาน เขาเริ่มต้นทำตั้งแต่อายุน้อย และมีประสบการณ์มาแล้วมากมายจากช่วงเวลาที่เขาอยู่กับเอฟเอ และสโมสรอื่นๆ ผมได้รับรีวิวดีๆ หลายอย่างเกี่ยวกับเขา ตอนที่เรากำลังพิจารณาดึงคนเข้ามา และผมคิดว่า เขาจะลงตัวกับทีมที่นี่ได้ดีจริงๆ”
“ผมพิจารณาจากคาแรกเตอร์ของเขา ผมพูดกับหลายๆ คนเกี่ยวกับตัวเขา และหลังจากนั้นตอนที่ผมพูดกับเขา มันยืนยันความประทับใจที่ผมมีว่า เขาเป็นคนแบบไหน ผมพูดกับเจ้านายว่า เขาน่าจะลงตัวกับที่นี่ได้ดีจริงๆ และหลังจากที่เจ้านายได้คุยกับเขา เขาคิดเหมือนกัน ดังนั้น มันเป็นเรื่องดีที่ได้เขามาอยู่กับเรา และเขาจะช่วยเหลือเรากับผู้รักษาประตูหนุ่ม ดูแลโกลหนุ่มๆ การหาคนใหม่ๆ และช่วยพวกเขาในการพัฒนา” เผยโฉม6ผู้เล่นอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก